[แจกฟรี!] ตัวอย่างจริง Power BI Claim Dashboard เป็น Case Study สำหรับงานวิเคราะห์ข้อมูลเคลม (3)

[แจกฟรี!] ตัวอย่างจริง Power BI Claim Dashboard เป็น Case Study สำหรับงานวิเคราะห์ข้อมูลเคลม

ในบทความนี้ผมนำความรู้การออกแบบ Dashboard Power BI เกี่ยวกับระบบงานเคลมมาเล่าให้ฟังนะครับ ซึ่งสามารถประหยัดเวลาในระยะยาว และเห็นข้อมูล Insight ได้แบบ Realtime เลย

เรื่องมีอยู่ว่าพอดีผมมีเพื่อนพนักงานมาถามผมเรื่องข้อมูลว่าพอจะมีทางไหนบ้างไหมที่ทำให้เขาสามารถเห็นข้อมูลเคลมได้ทันที เพราะมีพนักงานมาวางบิลทุกวัน และเมื่อวางบิลเสร็จต้องกรอกข้อมูลผ่าน Microsoft Form ก็จะไปรวมข้อมูลเป็น Rawdata Excel อันนึง

🤔ปัญหาที่เจอ?

  • ทางผู้บริหารต้องการทราบข้อมูลตลอดเวลาว่าตอนนี้มีคนมาวางบิลกี่คน จำนวนเท่าไร เดือนนี้?
  • เขาต้องเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมาว่ามีคนวางบิลมากกว่า หรือน้อยกว่าเพื่อให้เห็นเทรนด์แนวโน้ม เพื่อกัน Budget ไว้
  • ทุกครั้งที่ต้องเข้าประชุม หรือทางผู้บริหารถาม เขาต้อง Export ข้อมูลออกมาทำการ Pivot และ ทำกราฟแล้วไปใส่ Power Point (เสียเวลา)

🧾โครงสร้างข้อมูล

มาดูโครงสร้างข้อมูลกันครับ Rawdata เป็นดังนี้

ความหมายข้อมูลเคลมแต่ละ Column

  • ID — ลำดับข้อมูลแต่ละรายการ
  • Start time — เวลาที่เริ่มกระบวนการ (เช่น เริ่มกรอกหรือเริ่มเคลม)
  • Completion time — เวลาที่สิ้นสุดกระบวนการ
  • Email — อีเมลของผู้ยื่นเคลม
  • Name — ชื่อ
  • Name and Surname — ชื่อและนามสกุลเต็ม (บางส่วนซ้ำกับคอลัมน์ Name)
  • Claim Number — หมายเลขการเคลม เช่น TEST1234, RC6X1R
  • Claim amount (THB) — ยอดเงินเคลม (เป็นหน่วยบาท)

💡วิธีการออกแบบ Claim Dashboard

วิธีการที่ดีที่สุดคือต้องเข้าใจว่าคนที่ดู Dashboard นั้นดูอะไรเป็นหลัก อย่างในเคสนี้คือผู้บริหารต้องการเห็นภาพว่า

  • ยอดเคลมเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าแนวโน้มเป็นอย่างไร?
  • จำนวนเคลม และจำนวนเงินเคลมเดือนนี้มีเท่าไรแล้ว?
  • สามารถดูรายละเอียดถึงด้านในได้เลยว่าใครเคลมเข้ามาบ้าง เท่าไร (บัญชีชอบดูรายละเอียดลึกครับ 55+)
  • เห็นข้อมูล Realtime !! (ข้อนี้ทรงพลังมาก เพื่อนผมไม่ต้องมาเตรียมข้อมูลใส่สไลด์แล้ว, ผู้บริหารก็กดคลิกดูรายละเอียดจากลิงค์ได้เลย สุดยอดด)

📊Claim Dashboard

หลังจากเข้าใจปัญหาและออกแบบเสร็จ ก็ถึงเวลาลงมือทำจริงครับ
เคสนี้ข้อมูลไม่ได้ซับซ้อนมาก เพราะเป้าหมายคือสร้าง Operation Dashboard เพื่อให้เห็นภาพรวมการทำงาน ไม่ได้เน้นการวิเคราะห์เชิงลึกมากนัก

ดังนั้นโครงสร้างจึงไม่ต้องซับซ้อนหรือเชื่อมโยงหลายตารางมาก ใช้เพียงการ เขียน DAX เล็กน้อย เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลของ เดือนนี้กับเดือนก่อนหน้า ก็เพียงพอให้เห็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนครับ

🧑🏿‍💻การ Coding DAX (Data Analysis Expression)

DAX ก็เหมือนกับการเขียนสูตร Excel นะครับ แต่มันจะเป็นอีกภาษานึง โดยในครั้งนี้ผมเขียน DAX Measure 5 ตัว

1.Last Date

ไว้หาเวลาคนที่อัพเดทข้อมูลล่าสุด

Last Date = 
CALCULATE(MAX(Data_Claim[Completion time]))

2.Last Month Start , Last Month End

ไว้หาว่าเดือนล่าสุดที่อัพเดทนั้นเริ่มวันไหน และ จบว่าไหน

Last Month Start = 
DATE(YEAR([Last Date]),MONTH([Last Date]),1)

Last Month End = 
EOMONTH([Last Date],0)

3.Claim Number , Claim Amount (Last Month)

ไว้หาว่าเดือนล่าสุดที่อัพเดทมี Claim Number และ Claim Amount เท่าไร

Claim Number (Latest Month) = 
VAR startDate = [Last Month Start] 
VAR endDate   = [Last Month End]
RETURN
CALCULATE (
    COUNTROWS ( Data_Claim ),
    FILTER (
        ALL ( Data_Claim[Completion time] ),
        Data_Claim[Completion time] >= startDate &&
        Data_Claim[Completion time] <= endDate
    )
)
Claim Amount (Latest Month) = 
VAR s = [Last Month Start]
VAR e = [Last Month End]
RETURN
CALCULATE(
    SUMX(Data_Claim,COALESCE(Data_Claim[Claim amount (THB)],0)),
    FILTER(ALL(Data_Claim[Completion time]),Data_Claim[Completion time] >= s && Data_Claim[Completion time] <=e)
)

🎯ดาวน์โหลดฟรีที่นี่!

ดาวน์โหลดไฟส์ Power BI Dashboard

(บังคับ)
อัปเดต Template และ ระบบอัตโนมัติใหม่ก่อนใครที่นี่
🔔 Subscribe ช่อง BookIntelligent
☕ สนับสนุนค่ากาแฟ

ไม่บังคับตามสะดวกนะครับ ถ้ารู้สึกว่าไฟล์มีประโยชน์ แค่เลี้ยงกาแฟผมสักแก้วก็เพียงพอแล้วครับ 🙂
🎁 Bonus ถ้าหากสนับสนุนตั้งแต่ 100 บาท รับโบนัส Template “ระบบติดตามงานพร้อมปฏิทิน (Template To-Do List + Calendar) มูลค่า 500 บาท แจกให้ฟรี” — หลังโอน: แนบสลิปส่งทาง LINE ID : @741imcyw หรือ คลิกที่นี่

พร้อมเพย์
1100400603389
🥫Nescafe 17 บาท
☕️Black Coffee Amazon 60 บาท
🎁รับ Template Bonus ฟรี 100 บาท
ไม่อนุญาตให้นำไฟล์ไปจำหน่าย แจกจ่าย หรือเปิดให้ดาวน์โหลดต่อสาธารณะ

🧾 สรุป

หวังว่าบทความนี้จะเป็นไอเดียให้ทางเพื่อนๆที่สนใจการออกแบบ Dashboard Power BI ของตัวเองได้นะครับ การออกแบบนั้นไม่จำเป็นต้องยาก แต่ขอให้นำไปใช้งานในชีวิตและธุรกิจของตัวเองได้จริง แค่นี้ก็สามารถเพิ่มประสิทธิการทำงานได้มหาศาลแล้วครับ

ลองดูบทความเพิ่มเติมได้ดังนี้

ตอนนี้ ผมมีทำ [Template Pro] ระบบบัญชีรายรับ รายจ่าย เงินออม ด้วย Google Sheets มี Dashboard สรุป (Income Expense Saving Tracker) สามารถดูรายละเอียดได้ที่ Link นี้