ท่าทีเปลี่ยนเพราะมองเห็นประโยชน์.

ท่าทีเปลี่ยนเพราะมองเห็นประโยชน์

ท่าทีเปลี่ยนเพราะมองเห็นประโยชน์ พนักงานธรรมดาก็ยังคงเป็นพนักงานธรรมดา ในสายตาของหัวหน้า หากไม่แสดงความสามารถออกมาให้คนอื่นเห็น แต่เมื่อใดก็ตามที่พนักงานคนดังกล่าวสามารถทำในสิ่งที่เจ้านายทำไมได้หรือเป็นความสามารถที่องค์กรขาดหาย หลายคนที่เคยปฏิบัติต่อเขาแบบเฉย ๆ ก็จะมองเห็นความสำคัญ หันมาเอาใจ ให้เกียรติมากขึ้น

เนื้อหาจากสามก๊ก

นายอำเภอหลงกว่าง (บังทอง) แสดงความสามารถในการทำงาน เคลียร์งาน 100 วันที่ค้างเอาไว้จนสำเร็จภายในไม่กี่ชั่วยามได้ สร้างความตกตะลึงให้กับเตียวหุยและซุนเขียน พอเล่าปี่ทราบข่าวก็รีบเดินทางมายังอำเภอดังกล่าว เพื่อมาพิสูจน์ด้วยตนเอง ซุนเขียนและเตียวหุยรายงานความสามารถของหลงกว่างให้เล่าปี่ทราบ

พอเล่าปี่ได้ฟังถึงสติปัญญาของหลงกว่างก็รู้สึกทึ่ง ท่าทีที่เคยรังเกียจหรือไม่ชอบขี้หน้าก็เปลี่ยนไป เขาเข้าไปพบบังทองอย่างพินอบพิเทา บังทองอยากดื่มสุราอย่างดีก็ให้ลูกน้องไปสรรหามา ทหารม้าเร็วมาแจ้งว่าอาเต๊าลูกชายเล่าปี่ไม่สบาย นายหญิงต้องการให้เล่าปี่กลับไปดูลูก เล่าปี่กลับปฏิเสธจะขออยู่พูดคุยกับหลงกว่าง เพราะต้องการให้หลงกว่างเห็นความจริงใจของเขา

พอหลงกว่างจะเดินทางออกจากเมือง เล่าปี่ก็มอบม้าเต็กเลา ซึ่งเป็นม้าประจำตัวให้กับหลงกว่างใช้เป็นพาหนะเดินทาง หลงกว่างควบม้าเหยาะ ๆ ค่อย ๆ ไป เตียวหุยจึงพูดด้วยเสียงอันดังว่า “เราไม่ควรปล่อยคนเก่งขนาดนี้ไป” พูดจบก็ตระเตรียมควบม้าจะไปสังหารหลงกว่าง ทว่าเล่าปี่กลับห้ามเตียวหุยไม่ให้ทำเช่นนั้น เพราะต้องการจากกันด้วยดี เผื่อวันหน้าหลงกว่างจะกลับมาหาเขา

“ที่เขาไปไม่ใช่ความผิดของเขาแต่เป็นของข้า การสูญเสียหลงกว่างจะเป็นบทเรียนสอนข้าไม่ให้มองคนแต่ภายนอก” หลงกว่างได้ยินคำพูดเช่นนั้นจึงชักม้ากลับวบม้าหาเล่าปี่ด้วยความซึ้งใจและขอเป็นหนึ่งในที่ปรึกษาของเล่าปี่…

หลงกว่างหรือบังทองเป็นคนอัปถักษณี บุคลิกภาพที่แย่ หาความสง่างามไม่ได้ ขนาดเล่าปี่งเป็นเจ้านายที่ให้ความสำคัญกับลูกน้อง แม้ว่าแรกพบจะไม่ประทับใจ แต่เล่าปีก็ไม่ใช่คนทำลายน้ำใจคนจึงมอบหมายให้บังทองไปเป็นนายอำเภอ แต่พอทราบถึงความสามารถระดับอัจฉริยะของหลงกว่าง เล่าปีก็เปลี่ยนท่าทีทันที จากเดิมที่เมินเฉยเย็นชา และเกลียตซี้หน้า กลับกลายเป็นพินอบพิเทา เธาอกเอาใจ ให้ความสำคัญในการพูดคุยกับหลงกว่างจอมอัปลักษณี มากกว่าที่จะไป เยี่ยมลูกชายที่ลัมป่วย

ข้อสรุปแนวคิดจากเรื่องนี้

อย่าเพิ่งไปด่าเล่าปี่ว่าเสแสร้งแกล้งกระทำนะครับ แต่ที่ผมลงรายละเอียดและเพ่งความสนใจตรงนี้ ก็เพื่อซี้ให้เห็นความจริงของโลกใบนี้ สิ่งที่เล่าปี่ทำมันเป็นเรื่องธรรมดาของโลก และเป็นธรรมชาติของคน ไม่มีใครผิดหรือถูก เพียงแต่สิ่งที่ผมอยากจะบอกผ่านบทความนี้คือ หากคุณต้องการให้คนอื่นมองเห็นความสำคัญ หรือมองเห็นคุณค่ที่อยู่ในตัวคุณ ก็ต้องทำตนเองให้มีคุณค่าและเป็นประโยชน์กับคนรอบข้างไม่ใช่หายใจทิ้งไปวันๆ

เวลาทำงานก็อย่าไปเอาเปรียบเพื่อนฝูง กินแรงถูกนัอง หากรู้ตัวเก่งสู้เขาไม่ได้กี่ฝึกฝนความรู้ให้มาก ๆ ไม่ใช่ไปนั่งเม้ามอย อิจฉา คนโน้น ริษยาคนนี้ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้สร้างคุณต่ำ แต่ตรงกันข้ามจะยิ่งลดคุณค่าตัวคุณเอง

ฉะนั้นอยากให้คนอื่นเห็นคุณต่ำก็ต้องแสตงความสามารถกันสักหน่อย อย่าไปคิดว่าทำแล้วจะถูกอิจฉา เพราะถึงอย่างไร อยู่แบบมืคุณค่าย่อมดีกว่าอยู่อย่างไร้ค่า

———————————–
📖หนังสือ : อยู่อย่างฉลาด อยู่อย่างสามก๊ก
📍ผู้แต่ง : เปี่ยมศักดิ์ คุณากรประทีป

✅สั่งหนังสือได้ที่ : https://bit.ly/3zu6Llk


บทความน่าอ่าน

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *