รับปากก็เปลี่ยนแปลงได้

รับปากก็เปลี่ยนแปลงได้

ในสังคมมีคนหลากหลาย มีผู้ดีจอมปลอมหลายจำพวก ทว่ามีพวกหนึ่งที่ไม่ควรอยู่ใกล้ เพราะพวกเขาชอบรับปากให้ความหวังแต่ไม่เคยช่วยใครจริง เพราะลึก ๆ ในใจไม่เคยจริงใจกับใคร

เนื้อหาจากสามก๊ก

สุมาอี้มาพบโจโฉตามสัญญาที่ให้ไว้เมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งเมื่อ 3 ปีที่แล้วสุมาอี้บอกกับโจโฉว่าจะขอเฝ้าสุสานคุณชายน้อยโจฉง 3 ปี โดยแต่ละเดือนจะเผาตำราไปให้คุณชายน้อยเดือนละเล่ม เมื่อครบ 3 ปีจะกลับมาขอเป็นอาจารย์ให้กับคุณชายคนใดคนหนึ่ง

โจโฉจึงถามว่า “เช่นนั้นแล้วท่านจะเลือกเป็นอาจารย์ของคุณชายคนไหน” สุมาอี้จึงบอกว่า “คุณชายรองโจผี”

โจโฉก็ส่ายหน้าแล้วถามว่า “ทำไมท่านถึงไม่เลือกโจสิด ข้าอยากให้ท่านเลือกโจสิด”

สุมาอี้จึงบอกว่า “คุณชายมีสติปัญญาเป็นเลิศ ข้าไม่รู้จะสอนสิ่งใด”

โจโฉได้ฟังการปฏิเสธอย่างนุ่มนวลของสุมาอี้ จึงบอกกับสุมาอี้ว่า “ถ้าข้าสั่งให้ท่านเลือกโจสิคล่ะ”

ทว่าสุมาอี้ยืนกรานปฏิเสธอย่างแข็งขัน โจโฉจึงบอกว่าท่านจะไม่สอนโจสิดก็ได้ แต่ข้าไม่ให้ท่านสอนโจผี

สุมาอี้ได้ฟังเช่นนั้นจึงกล่าวว่า “เมื่อ 3 ปีก่อนท่านเคยรับปากข้าไว้ว่า เมื่อครบ 3 ปี ให้ข้าเลือกเป็นอาจารย์ของคุณชายคนใดก็ได้”

โจโฉได้ฟังเช่นนั้นก็แค่นหัวเราะ แล้วจึงกล่าวถ้อยคำที่แม้แต่คนชาญฉลาดอย่างสุมาอี้ยังตกตะลึง

“ข้าเป็นถึงเสนาบดี คำพูดของข้าจะเปลี่ยนเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ของคนอื่นเมื่อพูดแล้วจะเปลี่ยนไม่ได้ สุมาอี้เมื่อท่านอยู่กับข้าไม่ได้ก็เชิญไปซะ”

เวลานั้นสุมาอี๋ได้แต่ก้มหน้ารับชะตากรรมเขากล่าวขอบคุณแล้วจึงบอกลาโจโฉ…

แม้สุมาอี้จะชาญฉลาต ทว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า โจโฉมองสุมาอี้อย่างทะลุปรุโปร่ง ใช้วาจาและ
เล่ห์เหลี่ยมไล่ตัอนสุมาอี้ จนสุมาอี้อับจนหนทางประเด็นสำคัญในตอนนี้ที่ต้องชีดเส้นใต้คือ
วาทะของโจโฉที่กล่าวว่า “ข้าเป็นถึงเสนาบดี คำพูดของข้าจะเปลี่ยนเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ของคนอื่นเมื่อพูดแล้วจะเปสี่ยนไม่ได้”

มันสะท้อนความเป็นผู้นำที่มากเล่ห์ เหลี่ยมจัดจริงอยู่ในยุคนี้คงไม่มีใครกถ้าพูดแบเดียวกับโจโฉ แต่หลายคนคิดและทำแทบไม่ต่างกับโจโฉ เป็นลักษณะของพวกรับปากแล้วพร้อมกลับคำ อาทิ รับปากว่าจะให้แต่พอถึงเวลาก็บิดพลิ้ว พรัอมใช้ข้ออ้างต่าง ๆ สร้างความชอบธรรมให้ตนเอง หรือแม้กระทั่งรับปากว่าจะช่วยโน่นช่วยนี่ แต่พอถึงเวลาเอาเข้าจริง ๆ กลับไม่ยอมช่วยตามที่พูด ไม่ออกแรงตามที่เคยเสนอ พอถูกชักถามที่มีสารพัดข้ออ้าง ยกแม่น้ำทั้งห้ามาแก้ตัว

ข้อสรุปแนวคิดจากเรื่องนี้

นิสัยคนพวกนี้ชอบรับปากครับ เพื่อทำให้ตนเองดูดีมีราคา ส่วนจะทำได้หรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง (ส่วนใหญ่ก็ไม่คิดจะช่วยใครอยู่แล้ว) หากใครได้เจ้านายแบบนี้อาจต้องเครียดสักหน่อย เพราะคนพวกนี้รับปากแล้วไม่เคยทำได้ เนื่องจากเขาถือคติลิ้นไม่มีกระดูก สามารถพลิกแพลงได้ตลอดเวลา ฉะนั้นคุณอาจต้องเหนื่อยหน่อยถึงเหนื่อยมาก และอาจเหนื่อยที่สุดเมื่อตอนที่คุณกลายเป็นแพะรับบาป กลายเป็นข้ออ้างของหัวหน้า เช่น “ที่งานออกมาไม่ค่อยดีก็เพราะนัอง ๆ ไม่ตั้งใจทำงาน” หรือ “ที่ผมทำตามที่รับปากไม่ได้ เพราะน้องทึมงานไม่ค่อยให้ความร่วมมือ”ใครเคยมีประสบการณ์แบบนี้ ก็ลองนำมาแชร์กันนะครับ จะได้หาแนวทางรับมือเจ้านายจำพวกนี้


📖หนังสือ : อยู่อย่างฉลาด อยู่อย่างสามก๊ก
📍ผู้แต่ง : เปี่ยมศักดิ์ คุณากรประทีป

✅สั่งหนังสือได้ที่ : https://bit.ly/3zu6Llk


บทความน่าอ่าน

 

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *