อย่าลืมวางแผนพัฒนาผู้นำรุ่นใหม่

อย่าลืมวางแผนพัฒนาผู้นำรุ่นใหม่

อย่าลืมวางแผนพัฒนาผู้นำรุ่นใหม่ การพัฒนาผู้นำยุคใหม่คือสิ่งสำคัญมากเพราะการค้าต้องมีคนรับช่วง

ธุรกิจต้องมีคนสานต่อ หากผู้นำคนปัจจุบันมองข้ามเรื่องนี้ เภทภัยอาจมาเยือนในระยะยาวได้

เนื้อหาจากสามก๊ก

โจโฉได้พบ สุมาอี้ และพูดคุยกับเขาด้วยความสนใจ สุมาอี้แสดงความสามารถและวิสัยทัศน์ทางการเมืองและการทหารให้โจโฉได้เห็น ทำให้โจโฉทึ่งในตัวสุมาอี้มาก และแต่งตั้งสุมาอี่ให้เป็นราชบัณฑิต พร้อมมอบหมายงานสำคัญให้สุมาอี้ทำ . “ข้าแต่งตั้งท่านเป็นราชบัณฑิต ทำหน้าที่อบรมสั่งสอนโจฉง ลูกชายคนเล็กที่ข้ารักที่สุด” 

สุมาอี้ทำหน้าผิดหวังอย่างรุนแรง ถึงกับเอ่ยปากว่า “คุณชายโจฉงอายุแค่ 10 ขวบข้าจะไปสอนอะไรเขา เช่นนี้แล้วข้าขอเป็นนายอำเภอ

โจโฉจึงบอกว่า “สุมาอี้ ความปราชัยที่ผาแดงทำให้ข้าคิดแล้วคิดอีกว่า การผนึกดินแดนนั้นต้องใช้เวลามากกว่า 10 ปี หรืออาจสองสามชั่วคนก็ได้ 

หากข้ายังมีชีวิตอยู่ ด้วยปัญญาและบารมีอาจไม่มีใครเทียบ แต่ถ้าข้าอายุสั้นล่ะ ลูกหลานสกุลโจ ต้องให้คนมีปัญญาอย่างท่านคอยช่วยเหลือ ถึงจะอยู่ในกลียุคนี้ได้อย่างมั่นคง องอาจ และยิ่งใหญ่ 

สุมาอี้ได้ฟังเช่นนั้นจึงตระหนักถึงบทบาทและความสำคัญของตนเอง พยักหน้ายินดีรับตำแหน่งราชบัณฑิต เพื่อทำหน้าที่เป็นอาจารย์ของโจฉง… 

ข้อสรุปแนวคิดจากเรื่องนี้

เรื่องราวในตอนนี้สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของโจโฉในเรื่องการศึกษา โจโฉคือผู้นำที่มอง การณ์ไกล ทั้งยังเป็นคนรอบคอบ บทเรียนจากความพ่ายแพ้ในศึกผาแดงทำให้เขาตระหนักว่า การบรรลุภารกิจรวมแผ่นดินไมใช่เรื่องง่าย เพราะที่ผ่านมา เขาคิดว่าแต่ปราบอ้วนเสี้ยว อัวนสุด ลิโป้ เล่าเปียว ทุกอย่างก็อยู่ในมือ  

แต่พอมาเจอพันธมิตรซุน-เล่า ทำให้เขาตื่นจากภวังค์ฉะนั้นภารกิจรวมแผ่นดินยังเป็นเป้าหมาย หลัก แต่เป้าหมายสำคัญที่ไม่แพ้กันคือ การพัฒนาผู้นำรุ่นใหม่ให้สานต่อภารกิจของเขาได้ ซึ่งโจโฉ วางตัวโจฉงเอาไว้เป็นทายาททางการเมืองของต่อไป” 

แม้โจฉงจะชาญฉลาดแต่เขาก็ยังเด็กแต่ 10 ขวบ จำเป็นต้องได้รับการอบรมสั่งสอนจากอาจารย์ที่มีสติปัญญา เพื่อฟูมฟักให้โจฉงผู้นำตั้งแต่เยาว์วัย นี่คือการวางแผนสิบทอดอำนาจของโจโฉ 

คราวนี้มาดูในยุคนี้บ้าง การพัฒนาคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะทายาทธุรกิจในองค์กรคือสิ่งสำคัญมาก เพราะคนหนุ่มสาวเหล่านี้จะต้องมารีบหรือสานต่อธุรกิจ หากพวกเขาไม่มีความสามารถหรือไม่เก่งกว่าคนรุ่นก่อน ในไม่ช้าก็ต้องพ่ายแพ้ออกจากสังเวียนธุรกิจ 

ที่ผมพูดไม่ไต้หมายความว่าแค่ทายาทธุรกิจ แต่รวมไปถึงการบริหารงานในองค์กร หากผู้นำไม่สร้างคนเก่งหรี่อผลิตผู้นำยุตใหม่ใด้ในระยะยาวปัญหาต่าง ๆ จะเกิดขึ้นมาอย่างมากมาย อาทิ เรื่องบุคลากร การยอมรับ องค์ความรู้ที่ขาดหาย ฯลฯ 

ปัญหาเหล่านี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้วหลาย ๆ องค์กรที่มุ่งเน้นกำไรเป็นหลัก จนมองข้ามเรื่องการพัฒนาบุคลากรให้มีความสามารถเพราะคิดว่าพัฒนาจนเก่งแล้วก็ลาออกไป อยู่ที่อื่น แต่ลืมคิดไปว่า ก่อนที่เขาจะลาออกได้สร้างกำไรให้กับบริษัทอย่างมากมาย ทำให้ไม่อยากพัฒนาบุคลากรและไม่มีแผนการพัฒนาผู้นำรุ่นใหม่

แน่นอนว่าปัญหาอาจไม่เกิดถ้าผู้นำยังอยู่ แต่ถ้าวันหนึ่งต้องผลัดใบให้คนรุ่นใหม่ขึ้นมารับตำแหน่งต่อ องค์กรนี้จะประสบปัญหาประเภท “นำนายสิบมาเป็นแม่ทัพ” ผมไม่ได้บอกว่านายสิบไม่เก่ง เพราะเขาก็เก่งในบทบาทหน้าที่ของเขา แต่จู่ ๆ ให้เป็นนายพลเลยก็อาจทำให้เขาอยู่ไม่ใด้ หรืออยู่ใด้แต่ต้องเสียเวลาในการเรียนรู้อีกระยะหนึ่ง ซึ่งไม่หากไม่ต้องการให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น คุณต้องเริ่มจัดทำแผนการหาผู้นำรุ่นใหม่ เพราะอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ถึงอย่างไรก็มีผลดีต่อองค์กร กันไว้ดีกว่าแก้ครับ

———————————–

  • 📖 หนังสือ : อยู่อย่างฉลาด อยู่อย่างสามก๊ก
  • 📍 ผู้แต่ง : เปี่ยมศักดิ์ คุณากรประทีป
  • ✅สั่งหนังสือได้ที่ : https://bit.ly/3zu6Llk

บทความน่าอ่าน