ในความหวาน ซ่อนใบมีด

ในความหวาน ซ่อนใบมีด

คำพูดที่รื่นหูใครบ้างไม่อยากฟัง แต่อย่าลืมว่าคนพูดจาน่าฟัง บ่อยครั้งก็มักชอบเอาเปรียบคนอื่นโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัว
 

เนื้อหาจากสามก๊ก

ใน สามก๊ก 2010 มีหลายฉากที่แต่งเดิมขึ้น แต่ก็เป็นการแต่งเพื่อ “เน้น” บุคลิกของตัวละครให้ชัดเจน โดยเฉพาะโจโฉตัวละครเอกที่เป็นคนเดินเรื่องราวในภาคนี้ ฉากโจโฉเดินทางไปพบ ซุนเกี๋ยน ที่ด่านกักพยัคฆ์ (หู่เหลากวน) เพื่อเจรจาผลประโยชน์บางอย่างกับชุนเกี๋ยนเจ้าเมืองเตียงสา โจโฉมาหาชุนเกี๋ยนเพื่อมาขอยืมทัพม้าของซุนเกี๋ยนไล่ตามตีตั๋งโต๊ะ โจโฉกล่าวกับซุนเกี๋ยนว่า
 
“ถึงตอนนี้มีแค่สองกองทัพที่ทำเพื่อชาติมีเพียงสองเส้นทางสู่ชัยชนะที่เราจะทำได้ หนึ่งยืดเมืองหลวงกลับมา ภายใต้ข้อตกลงที่ว่า ใครยก ทัพเข้าเมืองเป็นคนแรกจะได้ตำแหน่งจอมทัพสองยกทัพไล่ตามตีทัพตั๋งโต๊ะ เพื่อกำจัดมันให้ได้”
 
ซุนเกี๋ยนได้ฟังก็รีบออกตัวว่า ทัพของข้าส่วนใหญ่เป็นพลเดินเท้าทหารม้ามีแค่ 4,000 นาย โจโฉจึงตอบไปว่า “ฉะนั้นท่านควรเคลื่อนพลไปยึดเมืองหลวงกลับคืนมา ส่วนข้าจะไล่ตีตามตีเอาชีวิตตั้งโต๊ะ” ซุนเกี๋ยนได้ฟังเช่นนั้นก็ยินดี ไม่คิดว่าโจโฉจะเสนอผลประโยชน์ให้ขนาดนี้ จึงถามโจโฉอีกครั้งว่า “จริงหรือพี่โจโฉ” โจโฉพยักหน้าแล้วพูดว่า “ข้ามีทัพม้านับหมื่นจะขอยืมทัพม้าของท่านไปร่วมสังหารดั่งโต๊ะ ข้าจะพาพวกเขาไปร่วมกันสังหารตั้งโต๊ะสร้างความชอบครั้งใหญ่” ซุนเกี๋ยนได้ฟังเช่นนั้นจึงพยักหน้า มอบทัพม้าของตนให้กับโจโฉ
 
ระหว่างที่โจโฉเดินทัพ โจหยิน ถามโจโฉว่า “ท่านพี่เรามีทหารม้าแค่ 3,000 ไปบอกซุนเกี๋ยนว่ามีเป็นหมื่นแล้วเราจะไปหาจากไหน” โจโฉก็หัวเราะชอบใจ ตอบว่า “แต่เราก็ได้ทัพม้าของซุนเกี๋ยนมาแล้วไม่ใช่หรือ นี่แหละคืออุบายที่เรียกว่า ‘จริงคือลวง ลวงคือจริง’ ไม่มีก็แสร้งว่ามี เพื่อสร้างภาพให้น่าเชื่อถือ” หากโจโฉบอกความจริงซุนเกี๋ยนย่อมไม่ให้ยืมทหารม้าอย่างแน่นอนจากนั้นโจหยินก็ถามต่ออีกว่า “ทำไมเราไม่เข้าเมืองหลวงสร้างความชอบ มาลำบากตามตีตั้งโต๊ะทำไม” โจโฉจึงกล่าวว่า “ระหว่างซากปรักหักพังกับฮ่องเต้ เจ้าคิดว่าสิ่งใดสำคัญกว่ากัน “…
 
จากคำพูดนี้ของโจโฉทำให้เรารู้ทันทีว่าเขาคิดอะไร ถึงแม้ชิงเมืองหลวงมาได้ ก็ได้แค่ซากปรักหักพัง ฮ่องเต้ไม่อยู่แล้วใครจะแต่งตั้ง
ตำแหน่งจอมพล นั่นหมายความว่า สิ่งที่ซุนเกี๋ยนทำไปย่อมสูญเปล่า แต่ถ้าโจโฉชิงฮ่องเต้มาได้ อยากจะเป็นตำแหน่งอะไรก็ย่อมต้องได้ คุณผู้อ่านเห็นลูกเล่นในการเจรจาของโจโฉไหมครับ อยากได้แต่ไม่แสดงออก แสร้ง ฮ่อยเหยื่อ หวังตกปลาตัวใหญ่ ดูผิวเผินเหมือนสละ ผลประโยชน์ก้อนใหญ่ให้ชุนเกี๋ยน แต่จริง ๆ คือการเอาเปรียบแบบบัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น

ข้อสรุปแนวคิดจากเรื่องนี้

ในยุคนี้ ในความหวาน ซ่อนใบมีด คนเจรจาโม้มนัาวเก่งอย่างโจโฉมีเยอะครับ พูดจาดีน่าฟังนำเชื่อถือ ดูเป็นตนดีมีน้ำใจกว้างขวาง แต่ใจคนมันหยั่งยาก หากเขารู้ ว่ามีผลประโยชน์ขนาดนี้ ทำไมเขาไม่เอาชะเอง ยกผลประโยชน์ ลาภยศสักการะให้เราทำไม นั่นแสตงว่ามันมิอะไรแอบแฝงอยู่เบื้องหลัง ทำให้ เราไม่กลัาผลีผลาม ลงมือทำ เขาจึงให้คุณไปรับเคราะห์ก่อน หากโชคดีก็แล้วไป เมื่อเขาเห็นว่าปลอดภัยจึงค่อยลงมือ ค่อยฉกฉวยหาประโยชน์ ทีหลัง แต่ถ้าช่วยคุณก็รับไปเป็นคนแรก ผลประโยชน์เป็นเรื่องพูดยาก ก่อนจะตัดสินใจทำสิ่งใด ขอให้คิดทบทวนให้รอบคอบเพราะฮ่องเต้คือความชอบธรรม
 
  • 📖 หนังสือ : อยู่อย่างฉลาด อยู่อย่างสามก๊ก
  • 📍 ผู้แต่ง : เปี่ยมศักดิ์ คุณากรประทีป
  • ✅สั่งหนังสือได้ที่ : https://bit.ly/3zu6Llk

บทความน่าอ่าน