อย่าตัดสินใจเวลาโกรธ

อย่าตัดสินใจเวลาโกรธ

อย่าตัดสินใจเวลาโกรธ เหตุผลหนึ่งที่ทำให้หลายคนตัดสินใจผิดพลาดนั่นคือ การตัดสินใจในยามโกรธ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร จบปริญญาเอกหรือประถมศึกษาก็ย่อมไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ เพราะคุณกำลังใช้อารมณ์ในการตัดสินปัญหาซึ่งแน่นอนว่าโอกาสผิดพลาดย่อมที่จะสูงเหมือนกัน

เนื้อหาจากสามก๊ก

ชุนกวนประกาศสงครามเปิดศึกกับโจโฉโดยมีจิวยี่เป็นแม่ทัพใหญ่ โจโฉได้เห็นฝีมือการบัญชาการรบของจิวยี่ จึงรู้ว่างานนี้เจอ “ของจริง” จึงพยายามหาทางกำจัดจิวยี่

เจียวก้าน ขุนนางฝ่ายบุ๋นคนหนึ่งของโจโฉจึงขออาสาไปเกลี้ยกล่อมให้จิวยี่กลับใจหันมาสวามิภักดิ์โจโฉ โจโฉจึงถามเจียวก้านว่าไฉนจึงกล้าอาสาในภารกิจนี้ เจียวก้านจึงบอกกับเจ้านายว่า “จิวยี่กับข้าน้อยเป็นเพื่อนกันตั้งแต่วัยเยาว์ ต่างร่วมเรียนสำนักเดียวกัน มีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ด้วยฝีปากข้าน้อยก็น่าที่จะเกลี้ยกล่อมจิวยี่ได้” โจโฉจึงมอบหมายให้เจียวก้านรีบดำเนินภารกิจ

ถึงตรงนี้ผมจะขอกล่าวข้ามไป เป็นอันว่าเจียวก้านไม่สามารถชักจูงจิวยี่ได้ ทว่าเขากลับได้จดหมายฉบับหนึ่งซึ่งเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ยืนยันว่าชัวมอและ เตียวอุ๋น สองแม่ทัพเรือเกงจิ๋วที่มาสวามิภักดิ์มีใจคิดไม่ซื่อ

เมื่อโจโฉได้อ่านจดหมายถึงกับปรี๊ดโทสะพวยพุ่ง เพราะใจความในจดหมายคือ “ทุกวันนี้ยังไม่สบโอกาสสังหารโจโฉ ขอให้ท่านจิวยี่รอคอยสักหน่อย เราสองคนจะนำศีรษะไอ้โจรเฒ่าไปมอบให้ท่าน” ทันทีที่อ่านจบจึงสั่งให้ทหารเรียกชัวมอและเตียวอุ๋นเข้าพบ ไม่ว่าชัวมอจะอธิบายอย่างไรในสายตาของโจโฉก็คือคำแก้ตัว ยิ่งพูดก็ยิ่งทำให้โจโฉเดือดดาลมากขึ้น สุดท้าย โจโฉจึงให้ทหารลากสองแม่ทัพไปประหาร พอสองคนถูกลากออกไป โจโฉก็มาฉุกคิดได้ว่าจดหมายนี้เป็นของปลอม พอจะอ้าปากถอนคำสั่งประหารชีวิต ทหารก็นำศีรษะของชัวมอและเตียวอุ๋นมาให้แล้ว เป็นอันว่าโจโฉได้สูญเสียแม่ทัพเรือผู้เก่งกาจไปทีเดียวถึงสองคน…

ข้อสรุปแนวคิดจากเรื่องนี้

คุณผู้อ่านครับ เหตุผลที่จิวยี่ยืมมือโจโฉสังหารชัวมอ เนื่องจากชัวมอเป็นแม่ทัพที่ชำนาญการเดินเรือระดับชั้นนำในเกงจิ๋ว จิวยี่เห็นการจัดค่ายทัพฝึกทหารเรือของชัวมอถึงกับเอยปากถึงความร้ายกาจของชัวมอว่า “หากทหารโจโฉได้การฝึกฝนเช่นนี้ ในไม่ช้าคงจะชำนาญทางเรือ ถึงวันนั้นเราคงจะเอาชนะยาก”  นี่คือที่มาของแผนยืมมือฆ่าชัวมอ ประเด็นสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามของเรื่องนี้คือ อย่าตัดสินใจทำสิ่งใดในยามโกรธ เพราะโทสะจะบตบังปัญญาและความคิด ถ้าไม่เชื่อลองสังเกตตนเองในยามโกรธจะพบว่า ประสิทธิภาพในการตัดสินใจด้วยเหตุและผลจะน้อยมาก

เนื่องจากการตัดสินใจเนันใช้อารมณ์และความสะใจเป็นหลัก ทำให้เราไม่ไตร่ตรอง ไม่คิดหน้าคิดหลัง มุ่งแต่จะเอาชนะอย่างเดียวโดยไม่สนใจความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น สุดท้ายก็ต้องมานั่งเสียใจที่หลังพร้อมกับคำพูดที่ว่า “รู้อย่างนี้ไม่น่าทำแบบนี้เลย” แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะครับ ในเมื่อแก้วที่แตกแล้วย่อมยากที่จะประกอบ หรือถ้าประกอบได้คงยากที่จะกลับมาเหมือนเดิม

ฉะนั้น หากคุณรู้ตัวว่ากำลังโกรธหรือมีโทสะ ต้องพยายามชมมันด้วยสติ แต่ถ้าสติเอาไม่อยู่ก็ควรเดินออกจากสถานการณ์ตรงนั้น ด้วยข้ออ้างส่วนตัวเช่น ขอเข้าห้องน้ำสักครู่ หรือมีธุระด่วนที่ต้องเร่งทำแล้วรีบไปจากพื้นที่ตรงนั้นให้เร็วที่สุด เพื่อไปสงบสติอารมณ์หรือไปทำกิจกรรมอื่น ซึ่งเทคนิคนี้มันอาจไม่ใช่เทคนิคที่ดีที่สุต แต่มันที่ทำให้มีเวลาไดร่ตรองได้มากพอสมควรก่อนที่จะตัดสินใจทำสิ่งใดลงไป

————————-

  • 📖 หนังสือ : อยู่อย่างฉลาด อยู่อย่างสามก๊ก
  • 📍 ผู้แต่ง : เปี่ยมศักดิ์ คุณากรประทีป
  • ✅สั่งหนังสือได้ที่ : https://bit.ly/3zu6Llk

บทความน่าอ่าน