จน เครียด ไม่รู้จะทำยังไงดี 7 เคล็ดลับในการหาทางออกในยามวิกฤต

จน เครียด ไม่รู้จะทำยังไงดี 7 เคล็ดลับในการหาทางออกในยามวิกฤต

จน เครียด กินเหล้า ประโยคเด็ดจากงานโฆษณาชิ้นหนึ่ง ซึ่งติดหูเรามาแต่ช้านาน เพราะมันเป็นวัฏจักรความจนเมื่อเราจนก็ทำให้เกิดความเครียดแล้วก็ไปจบด้วยการกินเหล้าเพื่อให้ผ่านไปวันๆ แสวงหาความสุขแบบชั่วคราว แล้วเมื่อตื่นนอนขึ้นมาก็เจอความเครียดเป็นลูปเดิม 

ดังนั้น การรู้จักคิดการคำนึงถึงผลในระยะยาว มีแผนที่ชัดเจนในแต่ละวัน เป็นสิ่งที่เราต้องใส่ใจ เคยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งกล่าวว่า ถ้าหากเราได้ลองแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นมา จะทำให้เราคลายเครียด ถึงแม้ว่าจะแก้ปัญหาได้เพียงนิดเดียว แต่ก็ค่อยๆดีขึ้นในแต่ละวัน ดีกว่ามาปล่อยปัญหานั้นให้เรื้อรังในระยะยาว โดยในบทความนี้จะเล่าถึง 7 เคล็ดลับในการหาทางออกในยามวิกฤต 

เคล็ดลับที่ 1 วางแผนลองทำงบการเงิน

ปัญหาแรกที่ส่วนใหญ่พบเจอในกลุ่มคนจนเรื้อรังก็คือ มักจะบ่นว่าเงินในแต่ละเดือนนั้นชักหน้าไม่ถึงหลังจึงทำให้เกิดความเครียดสูงอยู่เสมอ โดยที่ไม่รู้ว่าในแต่ละวันนั้นได้ใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง วิธีการง่ายๆก็คือให้ลองทำงบการเงินแบบง่ายๆขึ้นมา โดยให้เขียนรายรับ และหักรายจ่ายที่เป็นรายจ่ายประจำออกเช่นค่าส่งงวดรถ ค่าเช่าห้อง มันจะทำให้คุณเห็นกระแสเงินสดที่เหลืออยู่ในแต่ละเดือน หลังจากนั้นให้นำเงินที่เหลืออยู่นี้มาลองหาร 4 แบ่งเงินเป็นแต่ละอาทิตย์ใช้ดู เมื่อเราเห็นภาพทั้งหมดเราจะเริ่มสบายใจมากขึ้น คลายความเครียดได้ลดลงมา 

ถ้าหากหนี้ระยะยาวตัวไหน ที่เป็นรายจ่ายประจำแล้วทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่เหลือสภาพคล่องหรือกระแสเงินสดใช้พอในแต่ละเดือน ให้ลองคิดดูว่าทรัพย์สินเหล่านั้นจำเป็นต่อชีวิตเราไหม ลดเกรดลงมาหน่อยได้ไหม เช่นหนี้รถ ถ้าหากเราขับรถที่มีราคาสูงอยู่ แต่เมื่อหักค่าผ่อนชำระต่อเดือนแล้วรู้สึกว่าเงินในแต่ละเดือนนั้นไม่พอใช้ ลองคิดดูว่าเราสามารถลดเกรดรถที่ขับอยู่ได้ไหม เอาไปเทิร์นเปลี่ยนเป็นคันเล็กลงได้ไหม หรือนั่งรถไฟฟ้า รถเมล์ไปทำงานได้หรือเปล่า มันอาจจะฟังดูแย่นะครับแต่ว่าเพื่อให้ชีวิตของเรารอดไป ณ ตอนนี้ ก็ควรทำนะครับ จำไว้ว่าถ้าหากเรามีสภาพคล่องเก็บเงินได้ในระดับหนึ่ง เราก็สามารถซื้อทรัพย์สินเหล่านี้กลับมาได้ดังนั้นไม่ต้องห่วงหรอกครับ 

เคล็ดลับที่ 2 ออมเงินเพื่อเป็นบ่อน้ำแห่งความหวัง

ฟังดูแล้วอาจจะงงๆนะครับ แค่ใช้เงินเดือนต่อเดือน ก็แทบจะไม่พอแล้วจะให้เอาเงินส่วนไหนมาเก็บอีกละ ต้องบอกอย่างนี้ครับ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่เหลือเงินใช้เดือนต่อเดือนแล้วก็ตามยังไงคุณก็ต้องเก็บเงินอย่างน้อยๆ 3% ของรายได้ครับ หรือซักเดือนละ 300-500 บาทก็ยังดี เพราะอะไรรู้ไหมครับ?

การที่คุณหาเงินมาต่อเดือนทั้งหมดแล้วต้องไปจ่ายหนี้คนอื่น ใช้จ่ายจนหมดจนไม่เหลือเงินเก็บเลย มันจะทำให้คุณรู้สึกไม่มีความหวังในชีวิตครับ เพราะในแต่ละเดือนคุณหามาก็ต้องจ่ายจนหมดยิ่งอยู่ไปเรื่อยๆก็จะยิ่งหมดกำลังใจ ดังนั้นถึงแม้ว่าจะเก็บได้น้อย มันก็ทำให้เรารู้สึกมีกำลังใจไปในการใช้ชีวิตต่อในแต่ละวันครับ

เคล็ดลับที่ 3 นอนหลับให้เพียงพอ

ถึงแม้ว่าคุณจะเครียดแค่ไหนก็ตาม จะเหนื่อยแค่ไหนก็ตาม ก็ขอให้นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ตื่นมาวันพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ ค่อยลุยกันใหม่ จำไว้นะครับ คุณแค่เป็นหนี้ คุณไม่ได้ไปฆ่าคนอื่น ถ้าคุณยังไม่ตาย คุณก็ยังหาเงินใหม่ได้

การนอนเต็มอิ่มจะทำให้คุณไม่เจ็บไข้ได้ป่วย และสดชื่นสามารถลุยงานกับวันใหม่ๆได้ อีกยังทำให้คุณลดความเครียดอีกด้วย 

เคล็ดลับที่ 4 วิ่ง 

ในเคล็ดลับข้อที่ 4 นี้ผมกำลังจะบอกว่าให้แบ่งเวลามาออกกำลังกายครับ ซึ่งการออกกำลังกายที่ง่ายที่สุดผมเชื่อว่าก็คือการ วิ่ง แค่คนลองไปวิ่งที่สวนวิ่ง หรืออาจจะลองวิ่งหน้าบ้านก็ได้ เพียงแค่ 20 นาทีจะทำให้คุณคลายเครียดได้เลย เพราะเมื่อเราได้ออกกำลังกายคาดิโอนั้น จะมีฮอร์โมนสารแห่งความสุขตัวหนึ่งหลั่งออกมาคือ เอ็นโดรฟิน ซึ่งจะทำให้คุณลดความเครียดและมีความสุขได้

การออกกำลังกายนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่อง วิ่ง อย่างเดียวนะครับ อาจจะเป็นการกระโดดเชือกอยู่ที่บ้านก็ได้ง่ายๆ ไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะ ปั่นจักรยานก็ได้ แล้วแต่ที่คุณสะดวกเลยนะครับ 

เคล็ดลับที่ 5 พัฒนาทักษะของตัวเองในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอยู่เสมอ 

หากคุณยังไม่มีทรัพยากรเรื่องเงินทองไปลงทุน ให้ลองซื้อหนังสือสักเล่ม ที่เกี่ยวกับงานของคุณ เพราะการที่คุณลงทุนในหนังสือเพียง 2-300 บาท จะทำให้คุณเก่งขึ้น ประหยัดเวลาในการทำงานมากขึ้น และสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย

หรือคุณอาจจะลองลงคอร์สเกี่ยวกับการทำตลาดด้านออนไลน์ดู อาจนำสินค้าง่ายๆมาลองขายดูเผื่อจะเป็นช่องทางการขาย และเพิ่มรายได้ทางหนึ่งเลยทีเดียว

เคล็ดลับที่ 6 สร้างช่องทาง Passive Income

เมื่อคุณอ่านมาถึงข้อนี้แล้วก็ถึงเวลาที่จะต้องสร้างรายได้เพิ่มมากกว่า 1 ช่องทางแล้วละครับ ในยุคสมัยนี้ถ้าหากเรามีช่องทางการสร้างรายได้มากกว่า 1 ช่องทางก็จะทำให้เราลดความเครียดไปได้ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว สำหรับเรื่องของ Passive Income นั้นก็คือรายได้ที่เราไม่ต้องลงมือในการทำงานตรงนั้นแต่เราได้รายได้ ยกตัวอย่างเช่น ค่าเช่าบ้าน เงินปันผล ดอกเบี้ยต่างๆ 

โดยผมได้เขียนบทความโดยละเอียดไว้แล้วในบทความนี้สามารถอ่านลิงค์นี้ได้นะครับ 

เคล็ดลับที่ 7 มีวินัย ค่อยๆหาประสบการณ์ไปเรื่อยๆ 

คนส่วนใหญ่นั้นต้องการที่จะรวยเร็ว จนบางครั้งไปเจอคนที่ไม่หวังดีเข้ามาหาแล้วเสนอผลประโยชน์ว่าถ้าหากนำเงินของคุณไปลงทุนตรงนั้นตรงนี้ จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างมหาศาล จำไว้นะครับ การจะเป็นคนรวยนั้นไม่มีทางลัด ถ้าหากคุณต้องลงทุนอะไรสักอย่างให้ศึกษาให้เข้าใจถึงแก่นแท้ว่าวิธีทำกำไรนั้นคือทำอย่างไรไม่ใช่แค่ไปฟังคนอื่นว่าลงทุนตามเขา แล้วจะรวยตามเขา เพราะต้องบอกว่าในโลกยุคปัจจุบันนั้นมีมิจฉาชีพค่อนข้างเยอะนะครับ 

เป็นยังไงกันบ้างครับหวังว่า 7 เคล็ดลับนี้จะสามารถช่วยเพื่อนๆที่ อยู่ในช่วงวิกฤต จน เครียด ได้ไม่มากก็น้อยนะครับ

ถ้าสำหรับที่สนใจอยากศึกษาความรู้พื้นฐานทางด้านการเงิน