มีคนถามว่า ต้องมีเงินมากเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอใช้ได้ทั้งชีวิตผมตอบได้ทันทีว่า “ไม่รู้” เพราะความต้องการของคนเรานั้นไม่เหมือนกันยิ่งหากต้องมองไกลไปตลอดทั้งชีวิต ก็ยิ่งยากไปกันใหญ่ผมเองก็ยังไม่รู้เลยว่า ทั้งชีวิตต้องใช้เงินมากสักเท่าไหร่เพราะไม่มีใครรู้ว่าชีวิตในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรความสุขในชีวิตเราจะเปลี่ยนไปมั้ยและตลอดชีวิตสั้นหรือยาวไกลแค่ไหนแต่ถ้าถามว่า…
“เราจะลดความกังวลทางการเงินของเราได้อย่างไร” ข้อนี้ผมพอจะบอก “จุดคลายความกังวลทางการเงิน” ที่ผมทำกับตัวเองให้คุณฟังได้
สารบัญ
1.การมีแหล่งรายได้เพียงพอและมั่นคง
เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในลำดับที่หนึ่งเพราะมันคือสารตั้งต้นของสมการการเงินตราบที่เรายังสามารถหารายได้เข้ากระเป๋าได้มีเงินหมุนเวียนชีวิตเพียงพออยู่ตลอดชีวิตก็ยังเคลื่อนไปข้างหน้าได้ดังนั้น ไม่ว่าจะอย่างไรอย่าปล่อยให้ตัวเองเป็นคนขาดรายได้เป็นอันขาดแม้บางครั้งโลกจะเล่นตลกกับเราก็ตาม
2.จัดการภาระหนี้ปัจจุบันให้อยู่ในระดับควบคุมได้
คนเราใช้สินเชื่อได้ แต่ต้องไม่เกินกำลังถ้ามีหนี้ ใช้หนี้เขาได้ แล้วยังพอกิน มีเหลือเก็บแบบนี้ถือว่าจัดการสินเชื่อได้อยู่หมัด
3.ตรวจสอบสวัสดิการชีวิตให้พร้อมสรรพ
ทั้งจากที่ทำงาน หรือสร้างเองประกันชีวิต ประกันสุขภาพและอุบัติเหตุให้ครอบคลุมเพียงพอไว้
4.จัดการเงินอย่างไรก็ได้ ท้ายที่สุดต้องมี “ออม”
อันนี้คือหัวใจสำคัญที่ต้องทำให้เป็นนิสัยแต่ละเดือนจะมากจะน้อย ต้องมีเหลือให้ตัวเองอย่าเอาเงินที่หาได้ ให้คนอื่นไปเสียหมด
5.เป้าหมายแรกของการออมไม่ต้องมองไกล
ขอให้มีเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินไว้รับโชคร้าย เรื่องอันตรายสูงสุดทางการเงินคือ รายได้หายไปเตรียมรับมือพร้อมไว้ให้ดี 6 เท่าของค่าใช้จ่ายต้องมีไว้อยู่เสมอ
เมื่อมีทุกข้อที่กล่าวมาแล้วครบถ้วนให้สะสมทรัพย์สินเพิ่มเติมในทุกทางค่อยๆ ทำ ค่อยๆ เติม ค่อยๆ เพิ่มเมื่อวันที่ทรัพย์สินพอเลี้ยงชีวิตเราได้สัก 5 ปี (ใครไม่เคยคิดถึงเป้าหมายนี้ ให้ลองคิดดู) ความกังวลในเรื่องเงินทองของเราจะเริ่มเบาลง
ไม่ได้บอกว่ามันเยอะ ไม่ได้มากจนใช้ไม่หมดแต่ (สำหรับผม)… มันช่วยให้ตัวเองมีสติกับเรื่องเงินทองมากขึ้นไม่กลัวว่าจะไม่พอ เพราะเราก็พอมีไม่กังวลว่าจะหมดวันพรุ่งนี้ เพราะก็มากอยู่เก็บจัดสรรไว้ในที่ปลอดภัย ไม่เสี่ยงหายเพราะโลภทำในสิ่งที่ไม่รู้เป็น “จุด” ที่ความกังวลคลายลงที่เหลือคือ “ใช้ชีวิต” อย่างพิถีพิถันทุกวัน สร้าง “คุณค่า” เพิ่มเมื่อมีโอกาสและใช้ชีวิตให้มีความสุข
ทั้งหมดไม่ได้เป็นเคล็ดลับอะไรแต่อยากให้ลองละเป้าหมายไกล ๆแล้วเปลี่ยนมาจับต้องเป้าหมายที่ใกล้เข้ามาสักหน่อย…ก็เท่านั้น
อย่าห่วงโหมอนาคต…จนลืมดื่มด่ำกับชีวิตในปัจจุบันแต่ก็อย่าอิ่มเอมใจปลอม ๆ กับฐานะการเงินที่เราก็รู้ดีว่าไม่มั่นคงเท่าที่ควรอยู่รอดปลอดภัยได้สบายๆ 5 ปี คือ “จุดคลายกังวลทางการเงิน” ในแบบฉบับของผมไม่ต้องทำตามก็ได้แต่อย่าลืมตั้งโจทย์ให้ตัวเองว่าจุดคลายกังวลทางการเงินของคุณอยู่ที่ไหนกันนะครับ
ที่มา : Money Mindset
ผู้แต่ง : จักรพงษ์ เมษพันธุ์
แนะนำบทความที่น่าสนใจ