[สรุปหนังสือ+รีวิว] พ่อรวยสอนลงทุน เล่ม 3 (Rich dad’s guide to investing)

[สรุปหนังสือ+รีวิว] พ่อรวยสอนลงทุน เล่ม 3 (Rich dad’s guide to investing)

ในบทความนี้ผมจะสรุป พ่อรวยสอนลงทุน เล่มที่ 3 (Rich dad’s guide to investing) กลเม็ดเคล็ดลับการลงทุนของคนรวยที่คนจนไม่เคยรู้ มาเล่าให้ฟังนะครับ โดยเกริ่นก่อนนะครับ สำหรับเนื้อหาพ่อรวยสอนลงทุนมีเนื้อหาการลงทุนค่อนข้างแน่น มีจำนวนหน้าทั้งหมด 680 หน้า ซึ่งจะกล่าวถึง วิธีคิด และแผนการลงทุนซึ่งมันคือ “แก่นการลงทุน” นั่นเอง

สำหรับในการอ่านหนังสือเล่มนี้อาจจะมีพื้นฐานบางส่วนที่มาจาก
เล่มที่ 1 : พ่อรวยสอนลูก (Rich Dad Poor Dad)
เล่มที่ 2 : เงิน 4 ด้าน (Rich Dad’s Cash Flow Quadrant)
ถ้าใครยังไม่เคยอ่านหนังสือชุดซีรีย์พ่อรวยสอนลูกเลย ผมได้ทำการสรุปหนังสือเล่มที่ 1 และที่ 2 ไว้แล้วสามารถกดคลิกเข้าไปอ่านได้นะครับ เมื่อมาอ่าน พ่อรวยสอนลงทุน เล่มนี้ก็น่าจะเข้าใจมากยิ่งขึ้น

สารบัญ

การลงทุนคืออะไร?

คอนเซ็ปในหนังสือพ่อรวยสอนลงทุนเล่มนี้บอกว่า 

  • การลงทุน คือ แผนการ มันคือการวางแผนจัดจุด A ไปยังจุด B 
  • เครื่องมือการลงทุน คือ ยานพาหนะที่ทำให้คุณไปถึงจุดที่คุณต้องการ
  • นักลงทุนส่วนใหญ่นั้นชอบความซับซ้อนมากกว่าสูตรง่ายๆ แต่สำหรับพ่อรวยนั้นบอกว่า กฎที่สำคัญที่สุดของนักลงทุนคือ ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย 
  • คนเรานั้นจะมีแผนทั้งหมด 3 แบบคือ แผนเพื่อความมั่นคง แผนเพื่อความสุขสบาย และแผนเพื่อความร่ำรวย 
  • ถ้าอยากร่ำรวยต้องลงทุนกับเวลา หลายคนนั้นชีวิตพังเพราะเร่งรีบอยากที่จะรวย เช่นมีเพียงแค่เงินแต่ยังไม่ได้ศึกษาการทำธุรกิจแต่ดันรีบออกไปเริ่มทำเลยก็เจ๊งแบบรวดเร็ว
  • คนส่วนใหญ่นั้นยุ่งมากเกินไปที่จะเรียนรู้เรื่องการเงิน จึงทำให้ต้องตกเป็นทาสของการทำงานเพื่อเงิน
  • คนที่เอาแต่ทำงานหนักและอดออมนั้นรวยได้ยาก เพราะเขาต้องจ่ายภาษีมากกว่าที่ควรจะเป็น แต่ถ้าอยากเป็นคนรวย ต้องมีความรู้มากกว่าการทำงานหนักและอดออมโดยศึกษาเรื่องภาษีกฎหมาย การทำธุรกิจ บัญชี และอื่นๆอีกมากมาย
  • คนจนมักคิดว่า การลงทุนเป็นเรื่องที่เสี่ยง เพราะคนจนไม่ลงทุนในความรู้ ชอบหลีกเลี่ยงที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และชอบคิดว่าชีวิตนี้เขาไม่มีทางร่ำรวย 
  • นักลงทุนส่วนใหญ่ชอบพูดอะไรยากๆ ให้ดูซับซ้อน เพื่อให้ตัวเองดูฉลาด แต่นักลงทุนที่ดีต้องพูดภาษาง่ายๆ ให้คนฟังนั้นเข้าใจไม่ยาก 
  • ก่อนที่จะวางแผนทางการเงินหรือนำเงินไปลงทุน ต้องตอบคำถามของตัวเองให้ได้ก่อนว่า 1. ชีวิตต้องการอะไร และ 2.ความต้องการที่แท้จริงของตนเองนั้นคืออะไร (อย่าไปฟังเสียงคนอื่นเพราะคนอื่นนั้นมักจะยัดความต้องการของเขาให้เรา ) เมื่อได้คำตอบแล้วก็ให้ออกไปปรึกษาผู้ที่มีความรู้หรือนักวางแผนทางการเงิน เพราะจะช่วยให้เราประหยัดเวลาไปสู่จุดมุ่งหมายได้เร็วขึ้น 
  • ปัญหาของประกัน คือเราไม่สามารถซื้อประกันได้เลยเมื่อเราต้องการ ฉะนั้นวางแผนซื้อประกันตั้งแต่วันนี้ เพราะเมื่อไหร่ที่คุณต้องการมัน คุณจะซื้อมันได้ยาก
  • พลังของคำพูดนั้นสำคัญมาก เช่นถ้าเราพูดว่าเราไม่มีทางร่ำรวยหรอก เงินทองเป็นของหายาก มันก็จะเป็นเช่นนั้นครับ 
  • คำพูดมาจากความคิด ความคิดมาจากโลกทัศน์ และโลกทัศน์มาจากชีวิต

กฎพื้นฐานการลงทุน

พื้นฐานการลงทุนพ่อรวยสอนลงทุนเล่มนี้กล่าวว่า

กฎข้อที่ 1 : จงรู้ตัวอยู่เสมอรายได้ของคุณนั้นเป็นรายได้ชนิดใด

ในหนังสือพ่อรวยนั้นได้แบ่งรายได้ออกเป็นทั้งหมด 3 ชนิดคือ

  • รายได้ทั่วไป ซึ่งเป็นรายได้ที่มาจากงานประจำหรือการใช้แรงงานบางอย่างส่วนใหญ่จะมาในรูปของเงินเดือนเป็นรายได้ที่มีภาระทางภาษีสูงที่สุด
  • รายได้จากพอร์ตโฟลิโอ เป็นรายได้ที่มาจากทรัพย์สินจำพวกกระดาษหรือหลักทรัพย์ เช่นหุ้น พันธบัตร และกองทุน
  • รายได้จากทรัพย์สิน โดยส่วนใหญ่แล้วรายได้ชนิดนี้จะมาจากอสังหาริมทรัพย์ หรืออาจเป็นรายได้ที่มาจากสิทธิบัตรค่าลิขสิทธิ์ซึ่งมีความได้เปรียบทางด้านภาษีอยู่อย่างมากมาย 

 

กฎข้อที่ 2 : จงเปลี่ยนรายได้ทั่วไปจากงานประจำให้กลายมาเป็นรายได้จาก portfolio หรือรายได้จากทรัพย์สินอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 

 

[สรุปหนังสือ+รีวิว] พ่อรวยสอนลงทุน เล่ม 3 (Rich dad’s guide to investing)

กฎข้อที่ 3 : รักษาความปลอดภัยกับรายได้ทั่วไปที่มาจากงานประจำ โดยการนำไปซื้อหลักทรัพย์ที่คุณคาดไว้ว่าจะช่วยเปลี่ยนรายได้ทั่วไปของคุณให้กลายมาเป็นรายได้จากทรัพย์สินหรือจากพอร์ตโฟลิโอ ได้

[สรุปหนังสือ+รีวิว] พ่อรวยสอนลงทุน เล่ม 3 (Rich dad’s guide to investing)

กฎข้อที่ 4 : ทรัพย์สินหรือหนี้สินที่แท้จริงแล้วนั้นอยู่ที่ตัวนักลงทุนนั่นเอง

หลายๆคนคงเข้าใจว่าการลงทุนนั้นเป็นเรื่องที่เสี่ยงแต่แท้ที่จริงแล้วตัวนักลงทุนนั่นแหล่ะที่เป็นความเสี่ยง แล้วที่สุดแล้วนักลงทุนนั้นยังเป็นได้ทั้งทรัพย์สินหรือไม่ก็หนี้สินได้อีกด้วย 

 

กฎข้อที่ 5 : นักลงทุนที่แท้จริงนั้นจะเป็นคนที่เตรียมตัวให้พร้อมกับทุกสถานการณ์ส่วนคนที่ไม่ใช่นักลงทุนนั้นจะพยายามทำนายว่ามีเรื่องอะไรและเกิดขึ้นเมื่อไหร่ 

การลงทุนดีๆส่วนใหญ่นั้นจะปรากฏตัวออกมาเพียงแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้นแล้วจะมีน้อยมากที่มันจะปรากฏตัวออกมาเป็นเวลานานเป็นเดือนเป็นปี ถ้าตัวคุณยังขาดทั้งความรู้ ประสบการณ์และเงินทุน นั่นแปลว่าคุณยังไม่มีความพร้อมที่จะเข้าไปหาโอกาสอันนั้นแล้วสุดท้ายมันจะวิ่งผ่านหน้าของคุณไปหาคนอื่น

คนที่ไม่ใช่นักลงทุนนั้นถึงแม้ว่าจะมีโอกาสดีๆที่หยิบยื่นให้มาก็ตามเขาก็จะทำนายว่าสิ่งนี้มันไม่ดีเพราะเขาไม่มีความเข้าใจในการลงทุนนั้นๆอีกทั้งยังมีความกลัวในจิตใจทำให้ไม่กล้าลงทุน 

 

กฎข้อที่ 6 : ถ้าคุณมีความพร้อมซึ่งแปลว่าคุณมีทั้งความรู้และประสบการณ์ 

เมื่อคุณได้ไปเจอกับดีลดีๆสักตัวเข้าเมื่อนั้นคุณจะหาเงินทุนก้อนนั้นเจอเองหรือไม่เงินก้อนนั้นก็จะเป็นฝ่ายวิ่งเข้ามาคุณเอง ดีลที่ดีนั้นโดยธรรมชาติจะสามารถกระตุ้นความโลภในจิตใจของผู้คนได้ดังนั้นถ้ามีใครไปพบดีลที่ดีเข้า ดีลนั้นจะดึงดูดเงินเข้ามาเองซึ่งแปลว่ามันต้องเป็นดีลที่มีผลตอบแทนที่ยิ่งใหญ่รออยู่แต่ถ้าดีลนั้นเป็นบิลที่แย่แล้วก็คงเป็นการยากที่จะหาเงินทุนเจอ 

 

กฎข้อที่ 7 : ความสามารถในการประเมินความเสี่ยงและผลตอบแทน

ปกติแล้วนักลงทุนที่เป็นคนรวยนั้นเขาจะมี E ทั้ง 3 คือ 

  1. Education (ความรู้) 
  2. Experience (ประสบการณ์)
  3. Excess Cash (เงินสดส่วนเกิน)

สำหรับคนที่เข้าใจในการลงทุนนั้นจริงๆจะต้องสามารถอธิบายการลงทุนได้แบบเข้าใจง่ายเหมือนเดินตามสูตร KISS (Keep It Simple, Sweet heart – ทำให้มันง่ายเข้าไว้ ที่รัก)

 

วิชาการลงทุนนั้นเป็นวิชาที่คุณสามารถเรียนในขั้นพื้นฐานได้ไม่รู้จบ  สิ่งที่เคยฟังดูแย่ในตอนแรกมันจะกลายเป็นเรื่องง่ายๆในที่สุด ยิ่งคุณทำให้วิชานี้กลายเป็นเรื่องง่ายได้มากเท่าไหร่และยิ่งคุณได้เรียนรู้พื้นฐานของมันได้มากขึ้นเท่าใดคุณก็จะกลายเป็นคนที่ร่ำรวยขึ้นมากเท่านั้นโดยที่ความเสี่ยงก็จะลดลงไปเรื่อยๆ แต่สิ่งที่ยากสำหรับคนส่วนใหญ่ก็คือเรื่องของการลงทุนในเวลานั้นเอง

สามารถสั่งหนังสือได้ที่ลิงค์นี้


แนะนำบทความที่น่าสนใจ

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *