9 คุณสมบัติหัวหน้าที่ดี VS 9 คุณสมบัติหัวหน้าที่ลูกน้องบ่นถึงบ่อยที่สุด

9 คุณสมบัติหัวหน้าที่ดี VS 9 คุณสมบัติหัวหน้าที่ลูกน้องบ่นถึงบ่อยที่สุด

ในบทความนี้จะนำการวิจัยของคุณสมบัติหัวหน้าที่ดีกับคุณสมบัติหัวหน้าที่ลูกน้องบ่นถึงบ่อยที่สุดมาเล่าให้ฟังนะครับ

สารบัญ

9 ปัญหาที่ลูกน้องบ่นถึงเจ้านายบ่อยที่สุด

เว็บไซต์ Harvard Business Review ได้ตีพิมพ์บทความชื่อ The Top Complaints from Employees about Their Leaders หรือปัญหาที่ลูกน้องบ่นถึงเจ้านายบ่อยที่สุด ซึ่งมี 9 ข้อดังนี้

1. ไม่เห็นคุณค่าในงานที่ลูกน้องทำออกมา

2. ไม่มีทิศทางที่ชัดเจน

3. ไม่มีเวลาให้ลูกน้อง

4. ปฏิเสธที่จะคุยกับลูกน้อง

5. เอาหน้าในเรื่องที่ตัวเองไม่ได้ทำ/คิด

6. ไม่ให้ฟีดแบ็กในทางสร้างสรรค์

7. จำชื่อพนักงานไม่ได้

8. ไม่ยอมคุยกับคนอื่นทั้งทางโทรศัพท์หรือแบบเห็นหน้า (เดาว่าอาจให้ลูกน้องรับหน้าแทน)

9. ไม่ถามไถ่ลูกน้องเรื่องชีวิตนอกออฟฟิศ

9 คุณสมบัติหัวหน้าที่ดี

ในบทความนี้ยังมีข้อแนะนำอีก 7 ข้อ เพื่อป้องกันปัญหาที่กล่าวมา ได้แก่

1. แสดงให้ลูกน้องเห็นว่าเราเห็นคุณค่าในตัวเขา

โดยต้องยกตัวอย่างที่จับต้องได้ด้วย เพื่อให้ลูกน้องเห็นว่าเราใส่ใจมากพอที่จะสังเกตเห็นสิ่งดีๆ ที่เขาทำให้องค์กร

2. กล่าวขอบคุณ

ทั้งเป็นการส่วนตัวและต่อหน้าคนอื่นโดยอย่างแรกอาจจะทำโดยวาจา อีเมล หรือแม้กระทั่งโพสต์อิทส่วนอย่างหลังนั้นอาจจะทำในที่ประชุมหรือในจดหมายข่าวก็ได้

3. ถามความเห็นลูกน้อง

ถ้าหัวหน้ารู้ดีไปหมดทุกเรื่องลูกน้องก็คงไม่อยากนำเสนอไอเดียอะไร หัวหน้าควรจะหมั่นถามคำถามลูกน้องอยู่เสมอ เช่น “คุณคิดว่าเราจะปรับปรุงเรื่องนี้ได้ยังไง” หรือ “คุณคิดว่าต้นเหตุของปัญหาน่าจะอยู่ตรงไหน” หรือ “งานที่ทำอยู่ทุกวันนี้ชอบส่วนไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า” เพราะหัวหน้าที่ดีคือคนที่สามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการแสดงออกทางความคิดของคนในทีม

4. อธิบายที่มาที่ไปของการเปลี่ยนแปลง

องค์กรย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และเราเองอาจจะไม่ได้รู้ทุกอย่างหรือเรื่องบางเรื่องก็ยังไม่ถึงเวลาที่จะพูด แต่การไม่บอกอะไรลูกน้องเลย รังแต่จะทำให้ลูกน้องกังวลและเก็บไปคิดกันเองการให้ข้อมูลเท่าที่ให้ได้จึงเป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะคำอธิบายที่อยู่บนข้อเท็จจริงนั้นยังไงก็ดีกว่าการไม่อธิบายอะไรเลย

5. ให้ฟิดแบ็กกับลูกน้องอย่างทันท่วงที

เพราะคนทำงานรุ่นใหม่นั้นต้องการพืดแบ็กและการโค้ชชิ่งมากกว่าคนรุ่นก่อนๆ

6. เล่าความผิดพลาดของตัวเองให้ฟัง

เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าหัวหน้าเองก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งเหมือนกัน และลูกน้องย่อมจะเคารพหัวหน้าที่พร้อมจะเปิดเผยและยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเคยทำพลาด เพื่อที่ลูกน้องจะได้ไม่พลาดซ้ำเดิมอีก

7. จำชื่อพนักงานให้ได้

ถ้าองค์กรใหญ่เกินไปก็เริ่มจากการจำชื่อคนในทีมก่อน การจะมาบอกว่าตัวเองเป็นคนจำชื่อไม่เก่งนั้นเป็นข้ออ้างที่ใช้ไม่ได้ เพราะคนที่จำชื่อคนอื่นได้แม่นนั้นไม่ใช่เพราะว่าความจำดี แต่เพราะว่าเขาใช้ความพยายามและความใส่ใจมากกว่าคนอื่นต่างหาก การเป็นเจ้าคนนายคนไม่ใช่เรื่องง่ายครับ เพราะโดยทั่วไปคนที่เก่งในด้านนั้นๆ มักจะโดนเลือกขึ้นมาให้เป็นหัวหน้า ทั้งๆที่จริงๆ อาจจะยังไม่มีทักษะการเป็นผู้นำหรือมีความคิดความอ่านเป็นผู้ใหญ่เพียงพอ

8.เป็นโค้ชที่ดี

ผู้นำที่ดีจะเเก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วเเละในขณะที่เกิดปัญหาการเป็นผู้จัดการที่ดีจะใช้ปัญหาที่เกิดขึ้นสอนให้เรารู้จักเเก้ไขปัญหา ณ ขณะนั้น เขาจะแนะนำทีมและแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกที่จำเป็นสำหรับการเเก้ไขปัญหา สิ่งนี้ช่วยให้ทีมของเราได้รับประสบการณ์ที่มีค่าและเติบโต

9.สร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงานอยู่เสมอ

หัวหน้าที่ดีก็ต้องเปลี่ยนบรรยากาศให้ลูกน้องมีกำลังใจในการทำงานให้ได้ ไม่ว่าสถานการณ์ที่ทำงานอยู่จะมีความกดดัน ความเครียดขนาดไหนก็ตาม

สมมติว่าคุณเป็นโปรแกรมเมอร์ที่เก่งมาก แต่ไม่เก่งเรื่องการจัดการหรือการเข้าหาผู้คน ถ้าองค์กรโปรโมตคุณขึ้นมาเป็นหัวหน้า นั่นอาจหมายความว่าองค์กรได้เสียโปรแกรมเมอร์ดีๆไปหนึ่งคน และได้หัวหน้าแย่ๆมาหนึ่งคน ดังนั้น เราควรจะพัฒนาทักษะที่เป็น soft skills เหล่านี้เสียแต่เนิ่นๆ เพื่อที่วันหนึ่งเมื่อโอกาสมาถึง เราจะยังเป็นพนักงานที่มีคุณค่าและสร้างประโยชน์ให้กับคนรอบข้างรวมถึงตัวเองได้อย่างแท้จริง

ก็จบกันไปแล้วนะครับสำหรับ 9 คุณสมบัติหัวหน้าที่ดี VS 9 คุณสมบัติหัวหน้าที่ลูกน้องบ่นถึงบ่อยที่สุด เพื่อนๆหากใครกำลังได้รับตำแหน่งขึ้นมาเป็นเจ้าคนนายคน ก็ลองนำความรู้จากบทความนี้ไปลองใช้ดูนะครับ

หนังสือ : Thank God It’s Monday
ผู้แต่ง : อานนทวงศ์ มฤคพิทักษ์
สั่งหนังสือได้ที่